Latest News

Thursday, July 23, 2009

นิราศสุพรรณ ๓๕๑-๔๐๐

(๓๕๑) ๏ ตวันเที่ยงเลี่ยงเลียบน้ำ ลำธาร
ภบที่ศีลาลาน ฦกซึ้ง
อยุดยั้งนั่งสำราญ ร่มโศก ฉโงกเอย
ชื่นฉ่ำน้ำอ่อนอึ้ง อาบเหล้นเยนสบายฯ


(๓๕๒) ๏ หนูหนุ่มทุ่มท่องน้ำ ลำลหาน
ฟุ้งฟาดสาดสายสนาน สนุกบ้า
ลวดกวั่งชั่งบูเรบูราน เรียนหนุ่ม กระทุ่มเอย
เด็กอ่อนสอนเกรี่ยงลว้า ว่ายน้ำสำรานฯ


(๓๕๓) ๏ เกรี่ยงเลือกเชือกชิ่งช้า ช่วยแขวน
หนุ่มหนุ่มรุมไกวแสน สนุกล้ำ
เจรจาว่าถวายแหวน หวังเหาะ เคราะแฮ
วันซาดพลาดโพล่งน้ำ สนั่นร้องซ้องเสียงฯ


(๓๕๔) ๏ น้ำใสไหลเลื่อนช้า ปลากริม
กระกรับเกราะเราะเรียงริม ร่มไม้
ศรีศะตะกั่วพิม พาตพากมากเอย
ปักเป่าเหล่าหลดไหล้ แฉลบเลี้ยวเที่ยวสลอนฯ


(๓๕๕) ๏ แห่งตื่นพื้นกรวดแก้ว แวววาว
วาบวับจับพฤกษาพร้าว พร่างน้ำ
นิลบ้างหล่างเหลืองขาว เซียวแข่ง แดงเอย
ช้อนคื่นมึนมัวคล้ำ เคลือบคล้ายสลายสลัวฯ


(๓๕๖) ๏ กลางน้ำคล่ำดอกไม้ ไหลลอย
เหล่าหนุ่มสุ่มว่ายคอย แข่งคว้า
เด็จกลีบจีบเรือพลอย เพลินเล่น เยนเอย
เกรี่ยงว่ายได้ลว้า ว่ายไหม้ไคร่เปนฯ


(๓๕๗) ๏ ชุ่มชื่นขึ้นจากน้ำ สำราน
ลว้าเกรี่ยงเลี้ยงอ้อยตาล มตาดมต้อง
เงาะป่าว่าหวายหวาน วางต่าง ต่างเอย
อิ่มชื่นรื่นเริงร้อง รับช้าลาธารฯ


(๓๕๘) ๏ ตะวันบ่ายหายเลื่อยล้า คลาไคล
ค่ามโป่งดงเหลกไหล แล่งขมิ้น
ภบเตาเก่าก่อไฟ ผ้าพาด บาตแฮ
ตายแน่เเร่กินสริ้น ซากเนื้อเหลือของฯ


(๓๕๙) ๏ สงสารท่านที่ม้วย อวยบุญ
กระดูกยังบังสกุน เก็บผ้า
ย่ามบาตขาดเป็นจุน จุดใส่ ไฟเอย
ตายเปล่าเจ้ากูบ้า บ่อรู้ครูสอนฯ


(๓๖๐) ๏ เหล็กไหลได้แต่บ้า หาแสวง
ถูกแร่แม่สารแสดง เหล็กคล้าย
หลอมถลุงพลุ่งเพลิงแรง ราวรศ กรดเอย
ควันพิสฤทธสารร้อย ร่ำไซ้ไสร้สูรฯ


(๓๖๑) ๏ เดินทางหว่างไม้ชัด ลัดเฉลียง
ลมตกนกสนั่นเสียง แซ่ซ้อง
ร่ายไม้ไต่มองเมียง เหมือนจัก ทักเอย
เพรียกพลอดฉอดเสียงซ้อง แว่จ้อซอแซฯ


(๓๖๒) ๏ นกตะซาบคาบตขบเต้น เผ่นโจร
บ้ารบุ่นขุนแผนโผน ผ่านหน้า
เหล่านกหกหิ้วโหน ห้อยไต่ ไม้แฮ
ไก่เถื่อนเกลื่อนไก่ฟ้า ฟุบไม้ไซ้ขนฯ


(๓๖๓) ๏ คู่ล่าโห่โหรโร่โห้ร โห่โหย
โภระโดกโหวกวิเวกโหวย แว่วซ้อง
ยามยินยิ่งดิ้นโดย เดินหว่าง ทางเอย
เฆ้ากู่กู๋กู่ก้อง ไก่แก้วแจ้วเสียงฯ


(๓๖๔) ๏ แซ้งแซวแว่วแหว้วพลอด ฉอดเสียง
หวีดหว่อจ้อจับเคียง คู่เคล้า
นึกเหมือนเพื่อนรักเรียง ร่ำพลอด ฉอดเอย
อายนกอกใจเศร้า โศกสอื้นฝืนเดินฯ


(๓๖๕) ๏ ผงกผงกนกอีแอ้น กระแวนกระเวน
กวักเกว่าเหล่ากางเขน แขกเต้า
ตัวภู่จู่โจมเจน กโจมจับ ทับแฮ
ขะมิ่นอ่อนนอนเเนบเคล้า คู่ป้อนสลอนเหลืองฯ


(๓๖๖) ๏ หนุ่มหนูดูขมิ้นอ่อน นอนคลอ
ใครช่วยทามาหนอ นกขมิ้น
เหลืองอ่อนหล่อนลองซอ ขมิ้นนก ขมิ้นเอย
ขมิ้นที่ของน้องสิ้น แซ่งฉอ้อนวอนซอฯ


(๓๖๗) ๏ รวังไพรร่ายร้องกร่อ กร๋อกรอ
แอ้แอ่แอ้แอ๊อุลอ เลียบร้อง
พญาลอล่อล้อคลอ เคล้าคู่ อยู่แฮ
กะหรอดกรอดกร๊อดกร๋อกร้อง กะรอกเต้นเล่นกระเเตฯ


(๓๖๘) ๏ ต้อยตี๋วิศชิศ โฉบร้อง ก้องเกรียว
ตวิ๋ตตวิ๋ดติ๋ดเตียวเตียว เจี่ยวจ้อย
ตามทักปักหน้าเจียว เจ้าติ๋วิด กระจิ๋ดเอย
เด็กรักทักถามกต้อย กเตาะเต้นเผ่นหนีฯ


(๓๖๙) ๏ กต่ายตุ่นวุ่นวิ่งข้าง ทางเตียน
เด็กโดดโลดไล่เฉวียร ฉวัดคว้า
ทักกระทอล่อเลี้ยวเวียร วิ่งลัด สกัดแฮ
ล้มลุกคุกข่างหน้า นิ่วต้องย่องเดินฯ


(๓๗๐) ๏ ตวันเยนเหนโขดตขุ้ม เซาเซียว
สูงสุดจุดกลีบเกลียว เมฆคลุ้ม
เสือกวางต่างกระเกริงเกรียว เกริ่นป่า มาแฮ
เดชะพระเจ้าคุ้ม คชร้ายควายเสือฯ


(๓๗๑) ๏ ถึงถิ่นหินเงื้อมงอก กรอกเซา
หินหลักปักสองเสา ซอกน้อย
ลอดเลี้ยวเหนี่ยวหน่วงเถา ลัดาช่วยด้วยแฮ
ลงภุปรุะน้ำพร้อย พร่างคล้ายสายฝนฯ


(๓๗๒) ๏ พระเจดีที่ค่างถ้ำ บุรำบุราน
สูงสักหกสอกประมาณ ลม่อมป้อม
ปตูมีที่ช่องดาน ดันปิด สนิดแฮ
ปูนเพชรเขตเซาล้อม แล่งไว้ใบลานฯ


(๓๗๓) ๏ หนูหนุ่มรุมเข้าผลัก ปักกตู
ปิดห่องของท่านผู่ ภิเศศไว้
ต่างมองซ่องดานดู แวววับ ลับแฮ
สมาบาปกราบกรานไหว้ หวังผึ้งจึ่งมาฯ


(๓๗๔) ๏ จัดแจงแต่งตั้งธูป เทียรถวาย
เข้าตอกดอกไม้ราย รอบล้อม
สงพระประสุคนปราย ปรุงรศ สดเอย
กราบพระประนศน้อม นั่งไต้ ไทรทองฯ


(๓๗๔) ๏ จัดแจงแต่งตั้งธูป เทียรถวาย
เข้าตอกดอกไม้ราย รอบล้อม
สงพระประสุคนปราย ปรุงรศ สดเอย
กราบพระประนศน้อม นั่งไต้ ไทรทองฯ


(๓๗๕) ๏ จุดเทียรเวียรสว่างเวิ้ง เพิงผา
น้ำภุทลุศีลา ลั่นครื้น
ห้วงห้องปล่องคงคา ขังเปี่ยม เปรี่ยมเอย
ชื่นชุ่มภูมิภาคพื้น ภิฦกหน้าอาไศรยฯ


(๓๗๖) ๏ หาถ้ำค่ำมืดไหม้ ใคร่เหน
สงัดเงียบเยียบเยือกเยน หย่อมไม้
ภบแท่นแผ่นผาเปน ปูนเพช สำเรจเอย
ที่อยู่ผู่ภิเศศไว้ ฉวากเวิ้งเพิงเซา


(๓๗๗) ๏ อาไสในเงื้อมฉโงก โกรกผา
ที่แท่นแผ่นศีลา เลื่อมแก้ว
เทียรธูปบุพบูชา เชิญช่วย ด้วยเอย
กราบพระอธิถานแล้ว ลูกน้อยพลอยนอนฯ


(๓๗๘) ๏ เกรี่ยงกวั่งทังลวดว้า กล้าแขง
ฟืนไส่ไฟโพลงแสง สว่างหน้า
หุงเค่าเต่าต้มแกง กินเสจสำเรจแฮ
นั่งเล่นเยนเยือกฟ้า พร่ำพร้อยฝอยฝนฯ


(๓๗๙) ๏ ลวดว่าป่าปู่เจ้า เซาโพรง
ที่อยู่หมู่ช้างโขลง คล่ำล้อม
เยนเช้าเหล่าช้างโยง ฝูงเที่ยว เกรียวแฮ
มาปลอดยอดดีด้อม ดอดเข้าเซาสบายฯ


(๓๘๐) ๏ ใต้เหนือเสือช้างรอบ ขอบเซา
อยู่แต่นอกสอกเสา แซ่ซ้อง
โกรกกรอกซอกแซกเรา ทลุโตล่ง โว่งเอย
สัตอื่นหมื่นแสนต้อง เติ่งค้างข้างเซาฯ


(๓๘๑) ๏ เกรี่ยงลว้าป่าปู่เจ้า เขากลัว
อยู่แต่นอกกรอกหวัว ไว่ซ้อง
แสกเส้าเค่ามามัว มืดน่า ตาแฮ
เด็กใหญ่ไม่รู้ฉ้อง ฉวากโว้งโพรงเซาฯ


(๓๘๒) ๏ ตาลวดอวดอ้างเริ่ม เดิมที
โขลงไล่ไพล่ผลุนหนี เหนี่ยวไม้
เหนปล่องช่องแลกมี มุดลอด ตลอดแฮ
จึ่งปะพระเจดีได้ สลับต้นหนหลังฯ


(๓๘๓) ๏ ฟังผร่ำตำเรื่องรู้ บูราน
ศักสิทพิศฎานชาญ เชี่ยวแท้
ตรวดน้ำร่ำอธิถาน เทพช่วย ด้วยเอย
ขอปะพระปรอดแก้ สดวกได้ใบลานฯ


(๓๘๔) ๏ น้ำพึ่งครึ่งจอกตั้ง สังเวย
เชิญพระปรอดเสวย หว่างไม้
บุบผาบุชาเอย ช่วยชัก สลักแฮ
ซออ่านลานทองได้ ดุจข้าอาวรฯ


(๓๘๕) ๏ หนึ่งครูผู่ภิเศศส้าง ปางหลัง
เชิญช่วยอวยสวัดิหวัง ไว่เท้า
ประโญดโปรดสัตสัง สารวัดสวัดิเอย
จึ่งจิตสิทธิแก่เกล้า กม่อมหมั้นกตันยูฯ


(๓๘๖) ๏ อัพิวาทราตนหนั้ง ตั้งใจ
หวิดหวิดชิดเฉียดไฟ ฟอดผึ้ง
เทียรดับกลับจุดไฟ ส่องขเม่นเหนแฮ
สธุสพระปรอดขรึ้ง จอกแก้วแพรววาวฯ


(๓๘๗) ๏ หญิบขึ้นลื่นหลุดเหล้ ปรอดเหลว
ไสเหน่งเปล่งปลอดเปลว ปลอบช้อน
ห่อนเหนเช่นองคเอว เล็ดฟ่ายคล้ายแฮ
หญิบหลุดปลุดปลิ้นปล้อน เปล่าคล้ายหายสูรฯ


(๓๘๘) ๏ น้ำพึ่งครึ่งกระบอกตั้ง หวังริน
ฟอดฟอดปรอดกิน กบปล้อง
ควักขึ้นลื่นตกหิน หายเปล่า เล่าแฮ
หนุ่มห่อ....อยู่ซ้อง เปล่าคล้ายหายสูรฯ


(๓๘๙) ๏ เกรี่ยงลว้าผ้าขอดเข้า เปล่าหาย
ใส่สลักหนักมือหมาย มั่นแท้
กลับลอดปลอดเปล่าดาย เดกกโดโครทเอย
ลื่นหลุดสุดกลแก้ เปล่าคล้ายหายสูรฯ


(๓๙๐) ๏ หายลื่นคืนเข้ากบอก ออกถูน
รุ่มร่ำน้ำพึ่งสูน ซิ่นม้วย
ปรอดหายฝ่ายกองกูล ก่อกลับ ดับแฮ
เทียรท่อยพลอยหมดด้วย เด็กจ้องส่องแสวงฯ


(๓๙๑) ๏ ดึกสามยามสงัดครึ้ม งึมเงา
เยนเยียบเงียบขอบเขา โขดเงื้อม
มืดคลุ้มพุ่มกระแบกกระเบา บังปิด มิดเอย
แวบวับลับแลเหลื้อม ปรอดหร้อนว่อนเวียรฯ


(๓๙๒) ๏ เกือบรุ่งฝูงช้างแซ่ แปร๋แปร๋น
กรวดป่ามาเเกร๋นแกร๋น เกริ่นหย้าน
ฮูมฮูมอู่มอึงแสน สนั่นรอบ ขอบแฮ
คึกคึกทึกเสทือนสท้าน ถิ่นไม้ไพรพนมฯ


(๓๙๓) ๏ ต่างตื่นฟื้นสติตั้ง ฟังโขลง
ครื้นครั่นลั่นผึงโผง แผดร้อง
เกรี่ยงเราเป่าหลอดโหวง โหว่งโว่ โร่แฮ
ช้างสงัดบัดเดี๋ยวซ้อง แซ่เข้าเสาหินฯ


(๓๙๔) ๏ อึกกทึกครึกครื้นนอก กรอกทาง
หักค่นต้นยูงยาง ย่ำค้น
เหมือนรู้ว่าอยู่กลาง กลีบช่อง ปล่องแฮ
จนรุ่งฝูงช้างร้น รุกร้องซ้องเสียงฯ


(๓๙๕) ๏ เกรี่ยงลว้าพาขึ้นฉโงก โกรกสูง
แลค่างล่างช้างฝูง ฟูดฉเง้อ
กลิ่นใกล้ไล่โยกยูง ยางค่นต้นแฮ
เขย่งคึ้นยึ่นงวงเหญ้อ ยุดไม้ไต่เขาฯ


(๓๙๖) ๏ ดูเล่นเหนสนุกหน้า ผาเผิน
ตรงกรอกซอกเสาเนิน นั่งพร้อม
ช้างยิ่งวิ่งพล่านเพลิน พลอยคว่างช้างแฮ
ช้างแล่นแปร๋นฮูมห้อม หืดฮื้ออื้ออึงฯ


(๓๙๗) ๏ หนุ่มหนุ่มรุมโห่ขว้าง ช้างโขลง
มันขเม่นเหนคนโขยง เย่อไม้
ตามุ่งพลุ่งพลามโพลง พลั่งพลั่ง ปลั่งแฮ
ฮูมเค่าเสาหินไง้ งัดง้างสล้างสลอนฯ


(๓๙๘) ๏ แลดูหมู่ช้างเถื่อน เกลื่อนโขลง
ลุยป่ามาผางโผง พวกพ้อง
ยัดเยียดเสียดแซกโยง ยาวยืด มืดแฮ
แหงนน่างาเงยซ้อง สลับสล้างค่างเขาฯ


(๓๙๙) ๏ ช้างบ้างาใหญ่เฟื้อย เปลือยเปลา
ทลวงทลึ่งถึงแทงเสา สวบง้าง
งากระเด่นเผ่นท้าวเทา แทงอีก ฉลีกเอย
บ้าเลือดเดือดดุนช้าง อื่นร้องซ้องเสียงฯ


(๔๐๐) ๏ เพลินดูหมู่ช้างคล่ำ ต่ำสุด
เตี้ยค่อมปลอมแปลกฝูง เฟ่าฉแง้
ขุดขัดงัดยางยูง ยับทับ สลับแฮ
จนเที่ยงเสียงเซงแส้ แสบท้องต้องถอยฯ
no image
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top