Latest News

Monday, July 25, 2011

ลิลิตพระลอ ตอน ๒





ปู่เจ้าสมิงพรายเรียกพระลอสองหนแรก
ทางสรวงแก้ได้

   
หนแรกปู่เจ้าสมิงพรายทำยันต์เสน่ห์แลใช้กังหันลมติดยอดยางเจ็ดอ้อมกำกับ
พระลอฝันเห็นพระเพื่อนพระแพง ร่ำร้องจะไปหา แต่ทางสรวงก็แก้มนตร์หนแรกนี้ได้
   
หนที่ ๒ ใช้ธงสามชายปักปลายตะเคียนเก้าคนโอบส่งยาสั่ง
ทางสรวงได้พ่อหมอสิทธิไชยช่วยแก้ไข กับทั้งทำการป้องกันไว้ครันครบ "... บั้นในไว้อารักษ์ กลางไว้ยักษ์บริบาล ทวารนอกไว้ปีศาจ อากาศไว้ภูตคณา..."
   
ตอนนี้นอกจากจะเห็นวิธีทำเสน่ห์ยาสั่งแล้ว ยังบรรยายถึงความรัก ความทุกข์ แลความพยายามของผู้เปนแม่
   
ปู่เจ้ารู้ว่าข้างสรวงมีผู้ทรงอาคมแก่กล้าเทียมกันมาช่วย ตัดสินใจลงมือสู้ให้เต็มที่
________________________________

ร่าย
    o
เฉียวฉิวถึงที่อยู่ ปู่เอาไม้เลี้ยงไม้ไล่ ไม้ไผ่ไขว่ลูกลม เขียนพระตนกลมอยู่กลาง เขียนสองนางแลองค์ สองอนงค์กอดรูปเท้า โนมน้าวชักชวนมา ยันต์มายารายรอบ รายขอบทั้งสี่คู่ ปู่ชุบณมนต์เมิลไม้ ยางใหญ่ได้เจ็ดอ้อม ปู่ปั้นมือตีค้อม ยอดตั้งติดดิน ฯ

ร่าย
    o
ครั้นยางยินคำปู่ ใจพระลออยู่บมิกลม ปู่เอาลูกลมปักปลายยาง วางมือบัดเดี๋ยวดาย ปลายไม้ผายยยัน ใบไม้ผันยย้าย คล้ายลุงตรงตระบัด ลมพัดลูกลมผัน กลกังหันคคว้าง ลอบพิตรเจ้าช้าง ปั่นเพียงลมผัน ฯ

โคลง ๔
    o ฝันเห็นพระเพื่อนไท้
แพงทอง
สองแนบนอนแนมสอง
ตราบไท้
สองศรีสอดกรตระกอง
กอดราช แลนา
ชวนชักไปไล้ไล้
สู่บ้านเมืองสอง

โคลง ๒
    o พระทองผทมตื่นขึ้น
สทึ่นเที้ยรสอื้น
ประหว่าโอ้โหยหา ฯ


ร่าย
    o
บ่คลาสมปฤดีบพิตร พระสนมสกิดกันดู เห็นพระภูธรพิการ จึ่งเอาสารพิกล ดลแด่ภควดี ชนนีนาถรู้ข่าว ร้อนผผ่าวหฤทัย ธไปยังลูกบพิตร ท้าวธเห็นผิดแก่ตา ธก็ว่าบาบงกชจอมใจ พ่อเปนใดแก่อกแม่ ท้าวก็ทูลแด่แม่ณหัว วันนี้ตัวข้าสั่น ใจข้าปั่นผัดผัน คืนนี้ฝันเห็นถนัด ว่าสองกษัตริย์เพื่อนแพงทอง นอนแนบสองข้างข้า หน้าแนบหน้าอิงอร สองสอดกรกอดเกื้อ โลมลูบเชื้อเชิญไป ใจข้าไหวดังจะผก อกข้าปั่นดังจะคว่ำ ทุกข์บ่รู้กี่ส่ำแสนเศร้า จักใคร่เต้าไปหา เยียวลูกลาแม่ ณ เกล้า ขอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวเอนดู ลูกรา ฯ

โคลง ๔
    o ออกท้าวฟังลูกไท้
ทูลสาร
ถนัดดังใจจักลาญ
สวาทไหม้
น้ำตาท่านคือธาร
แถวถั่ง ลงนา
รู้ไห้บกี้ไห้
สรอื้นอาดูร ฯ
    o ตีอกโอ้ลูกแก้ว
กลอยใจ แม่เอย
เจ้าแม่มาเปนใด
ดั่งนี้
สมบัติแต่มีใน
ภพแผ่น เรานา
อเนกบรู้กี้
โกฏิไว้จักยา พ่อนา ฯ
    o นายแก้วจักอยู่เร้ง
ไปหา
เร็วเร่งพระโหรมา
อย่าช้า
หาหมู่หมื่นแพทยา
หมอภูติ มานา
หาแม่มดถ้วนหน้า
หมู่แก้กฤติยา ฯ
    o นายขวัญหาจุ่งถ้วน
ทั้งหลาย
ทุกหมื่นขุนมุลนาย
ช่วยไส้
เถมิลไพรเร่งขวยขวาย
ยาป่า มานา
ยาเทศทั้งปวงไว้
ฝ่ายข้างชาวคลัง ฯ
    o คลังกูคลังลูกแก้ว
กูนา
จักจ่อมจ่ายเยียวยา
หน่อเหน้า
สิ้นทั้งแผ่นดินรา
แม่ลูก ก็ดี
สิ้นแต่สินจงเจ้า
แม่ได้แรงคืน ฯ
    o ขวนขวายถึงขนาดพร้อม
เพรียงกัน
หมอว่าใดทำสรรพ์
สิ่งนั้น
บนานพระลอพลัน
สรว่าง เสบยนา
ถ้อยหมู่หมอมาหั้น
ท่านให้เหลือเฟือ ฯ
    o ออกท้าวธิราชได้
แรงรมย์
นางพระยาพระสนม
ชื่นหน้า
มนตรีไพร่เมืองชม
สดชื่น เสบยนา
ลอบพิตรเจ้าหล้า
สว่างคลุ้มหายมัว ฯ





โคลง ๒
    o สองบัวบุษปอยู่ถ้า
ฟังข่าวพระลอช้า
อกร้อนคือไฟ ฯ

    o ให้ไปเตือนปู่เจ้า
ปู่ว่ามีหมอเถ้า
แก่แก้คุณเรา
มากนา ฯ

ร่าย
    o
ปู่ก็เอาธงสามชาย รายยันต์มากกว่าเก่า เขียนพระลอเจ้าอยู่กลาง กอดเจ้าช้างรัดรึง ชักทึงท้าวชวนเต้า แล้วปู่เป่าตะเคียน ใหญ่เก้าอ้อมใช่สามาญ ปลายไม้กรานก้มลง ปู่เอาธงปักผลักขึ้น ต้นไม้ฟื้นฟฟั่น ใบไม้สั่นฟฟัด ลัดลุกขึ้นยืนตรง ลมลิ่วธงททัด พัดถูกธงททาว ลมสร้าวเสียงเฉียวฉิว ปลิวกระพือยาหยูก ถูกพระองค์ท่านไท้ ถนัดดั่งสองนางไล้ ลูบให้แลเห็น องค์นา ฯ

ร่าย
    o
ท้าวธเป็นหนักเล่ากว่าก่อน ดังเห็นสองอ่อนแก่ตา มาชักไท้สู่หย้าว มาเชิญท้าวธสู่เรือน ใจท้าวธเฟือนฟฟั่น สั่นพระองค์ทท้าว น้าวพระองค์ยยัน ผันพระพักตร์บพิตร ไปยังทิศตวันออก เขาจึงบอกนาฎบุญเหลือ ธรีบเมื่อยังลูกไท้ ไห้มาพลางรันทด สลดฤทัยพระองค์ ทรุดนั่งลงแลพระพักตร์ พระลอลักษณดิลก ทาบตีอกร้องไห้ มือทุ่มทรวงไล้ไล้ ลูกแก้วกับตน แม่เอย ฯ

โคลง ๔
    o เจ้าไข้ทุกข์แม่เพี้ยง
ภูเขา ลูกเฮย
เจ้าเคลื่อนทุกข์บางเบา
สว่างร้อน
มาเห็นพ่อเงียบเหงา
หนักกว่า ก่อนนา
ทุกข์เร่งซ้อนเหลือซ้อน
ยิ่งฟ้าทับแด ฯ
    o หญิงชายเหลือแหล่งหล้า
ฤๅยล ยากนา
เห็นแต่เราสองคน
คู่ม้วย
ฉันใดพ่อกับตน
เป็นดั่ง นี้นา
แม้พ่อตายตายด้วย
พ่อแล้จอมใจ แม่เอย ฯ
    o นายแก้วนายขวัญเร่ง
ขวนขวาย หนึ่งรา
หาหมู่หมอทั้งหลาย
ทั่วหน้า
มาเร็วเร่งยาสาย-
สมรแม่ เร็วรา
เดิรด่วนอย่าได้ช้า
ช่วยด้วยหัวใจ ฯ
    o หาสิ้นสบส่ำถ้วน
มดหมอ
ทั้งแผ่นดินฤๅหลอ
อยู่ได้
มาแก้พระเลืองลอ
ฤๅเคลื่อน คลายเลย
พระแม่ไท้เห็นไท้
ลูกท้าวพิศวง ฯ
    o ท่านไท้ชุมถ้วนมิ่ง
มนตรี ท่านนา
เผยม่านผายเสาวนี
ท่านพร้อง
สมเด็จปิ่นภูมี-
ศวรราช เรานา
ยาบหายไข้ข้อง
สวาทแค้นคาใจ ฯ
    o ตรวจไตรหาหน้าหมู่
มดหมอ
ดีจะยังเหลือหลอ
อยู่บ้าง
สิ่งใดจะพึงพอ
คิดเร่ง คิดนา
ใดชอบทำอย่าร้าง
เร่งเทิ้ญเร็วทำ ฯ

ร่าย
    o
มนตรีจำพระกฤษฎีกา ตรวจหาหมอทุกผู้ จึ่งรู้ว่าหมอสิทธิไชย นั้นออกไปอยู่ป่า รู้มลักกว่าทั้งหลาย คุณพันลายพันลึก ตรึกไตรศาตราคม บันสมสิทธิสามารถ ชำงัดโดยคุณโดยฤทธิ์ ธประกาสิตเร็จสรรพ เขาเร่งรับปู่เข้ามา ปู่ตั้งลากูณฑ์พิธี พลีเทพผู้มีฤทธิ์ ศักดิ์สิทธิมนตราคม บันสมทำโดยศาสตร์ ให้พระลอราชหายหลง ให้ท้าวธสรงอุทกมนต์ เจ้าสากลสว่างเสบย เสวยโอสถประสิทธิ์ อันมีฤทธิ์พิเศษ สระพระเกศพระสกนธ์ ตั้งมณฑลสามชั้น บั้นในไว้อารักษ์ กลางไว้ยักษ์บริบาล ทวารนอกไว้ปีศาจ อากาศไว้ภูตคณา อยู่รักษาทุกแห่ง แล้วแต่งการเอิกเกริก เบิกสมโภชพิธี เบิกบายศรีทำขวัญราช พระบาทให้รางวัล สรรพอุปโภคพิพิธ แก่หมอสิทธิไชย หมอถัดไปโดยลำดับ ให้สำรับเสื้อผ้า ให้แก่หมอถ้วนหน้า ผู้เฝ้ารักษา ท่านนา ฯ

โคลง ๔
    o เอ็นดูสองราชไท้
ธิดา ท่านนา
ท่าบ่เห็นโหยหา
อกไหม้
พระลอราชจักมา
ฤาไป่ มาเลย
สองราชละห้อยไห้
แต่ถ้าภูบาล ฯ
    o จึ่งใช้สองพี่เลี้ยง
ไปพลัน
ถามปู่เปนฉันใด
ดั่งนี้
ข้าไปบังคมคัล
พระปู่ แลนา
พระปู่เฮยยังกี้
เมื่อท้าวจักมา ฯ
    o ปู่เล็งเห็นทั่วแล้ว
ทุกอัน นาแม่
บอกข่าวเขาแก้กัน
แต่งเฝ้า
มดหมอจักเทียมทัน
เขายาก นักนา
ไว้ปู่จักกลอยเถ้า
ต่อด้วยเข้าเอง




โคลง ๒
    o เขืออย่าเกรงเกลือกช้า
สองจักพลันเห็นหน้า
พระบาทท้าวจักถึง
แม่แล ฯ


หนที่สาม ปู่เจ้าสมิงพรายใช้ไม้ตายเรียกพระลอ
ศึกผีสองนครา
สลาเหิน
   
ปู่เจ้าสมิงพรายระดมพลสาระพัดผี สั่งให้ไปทะลวงเกราะป้องกันเมืองสรวงที่ปู่หมอสิทธิไชยสร้างไว้ เพื่อเปิดทางใช้หมากเคี้ยวลงอาคม "สลาเหิน"
   
การรบพุ่งของผีของปู่เจ้ากับอารักษเทวา ภูติผีแห่งเมืองสรวง
ผีข้างเมืองสรวงพ่ายหนี ปู่เจ้าจึงใช้ "สลาเหิน" ลอยขึ้นฟ้าแล้วไปตกลงปนในพานหมากของพระลอ
ครั้นพระลอเสวยหมากมนต์ก็เกิดอาการหนักหนา สุดที่หมอสิทธิไชยจะแก้ไขได้
________________________________

ร่าย
    o
ปู่รำพึงถึงเทพดา หากันมาแต่ป่า มาแต่ท่าแต่น้ำ มาแต่ถ้ำคูหา ทุกทิศมานั่งเฝ้า พระปู่เจ้าทุกตำบล ตนบริพารทุกหมู่ ตรวจตราอยู่ทุกแห่ง ปู่แต่งพระพนัสบดี ศรีพรหมรักษ์ยักษ์กุมาร บริพารภูตปีศาจ ดาเดียรดาษมหิมา นายกคนแลคน ตนเทพยผู้ห้าวท้าวผู้หาญ เรืองฤทธิ์ชาญเหลือหลาย ตั้งเปนนายเปนมุล ตัวขุนให้ขี่ช้าง บ้างขี่เสือขี่สีห์ บ้างขี่หมีขี่หมู บ้างขี่งูขี่เงือก ขี่ม้าเผือกผันผาย บ้างขี่ควายขี่แรด แผดร้องก้องน่ากลัว ภูตแปรตัวหลายหลาก แปรเปนกากภาษา เปนหัวกาหัวแร้ง แสร้งเปนหัวเสือหัวช้าง เปนหัวกวางหัวฉมัน ตัวต่างกันพันลึก ลคึกกุมอาวุธ เครื่องจะยุทธยงยิ่ง เต้นโลดวิ่งระเบง คุกเครงเสียงคะครื้น ฟื้นไม้ไหล้หินผา ดาษดากันผาดเผ้ง รเร้งร้องก้องกู่เกรียง เสียงสเทือนธรณี เทียบพลผีเสร็จสรรพ ปู่ก็บังคับทุกประการ จึ่งบอกสารอันจะใช้ ให้ทั้งยามนตร์ดล บอกทั้งกลอันจะทำ ให้ยายำเขาเผือด มนตราเหือดหายศักดิ์ ให้อารักษ์เขาหนี ผีเขาแพ้แล้วไส้ กูจึงจะใช้สลาเหิร เดิรเวหาไปสู่ เชิญพระภูธรท้าว ชักมาสู่สองหย้าว อย่าคล้าคำกู สั่งนี้ ฯ

โคลง
    o น่าดูพลปู่เจ้า
จอมผา
อึงอึดอัมพรคลา
คลาศเต้า
ผีภูผาตคณา
นับโกฏิ เกรียงแฮ
ไคลคลี่พลคลาเต้า
ด่วนได้โดยโพยม ฯ
    o พิศเพี้ยนผีพวกพ้อง
เพียงพล มารแฮ
เต็มป่าพฤกษ์ไพรสณฑ์
แหลกหลู้
บนานก็มาดล
แดนราช
ผีฝ่ายแดนชุกรู้
เร่งเร้งเรียกกัน ฯ

ร่าย
    o
มากลากลาศกันแดน ผีแขกแค้นเข่นขุก ผีแดนรุกรบพุ่ง แล่นไล่ยุ่งโลดเต้น บ้างหลบบ้างหลีกเร้น บได้ตอบตี ฯ


โคลง ๔
   o ผียยุ่งรบกับด้วย
ผีแขวง แดนนา
ผีทุ่มผีไล่แทง
ผาดผ้าย
ผันแผงแผดรบแรง
ร้องเร่ง พลนา
ผีแขกรุกราญร้าย
รบเร้ารอนผลาญ ฯ

ร่าย
    o
ผียยุ่งรบกัน ครรชิตฤทธิราวี ผีทุ่มผีไล่แทง รบแรงผันเผ็งแผด ผีเจ้าแจดจ้ายจ้าย ร้องเร่งพลคล่ำคล้าย ผาดผ้ายรุกราญ ฯ

ร่าย
    o
ผีบันดาลไฟคลุ้ม ให้ควันกลุ้มเวหา ด้วยแรงยาแรงมนต์ ผีแดนทนทานยาก จึ่งฝากข่าวแก่ลม กึกก้องอมพรมี่ ลัดพลัดปรี่ปรึงมา บอกแก่เทพดาเสื้อเมือง ฟ้าหล้าเหลืองอุบาทว์ อากาศคลุ้มเปนควัน ฟ้าเครงครรชิตผ่า ใจเมืองบ้าดังจะผก หัวอกเมืองดังจะพัง เทพดาฟังฟฟั่น ตกใจสั่นระรัว กลัวฤทธิ์พระปู่ ผู้มีเดชเกรียงไกร หมอสิทธิไชยเล็งเห็น ทีนี้เข็ญเกิดใหญ่ ปู่หมอใคร่ใจดู ครูกูชี้ให้เห็น อันเปนนั้นปรตยักษ์ ด้วยสิทธิศักดิ์ผีสาง จึ่งทูลแด่ออกนางนาฎชนนี ฟังคดีอัศจรรย์ ว่าจะกันกันบได้ ให้มาเห็นเข็ญปลาด ทุกประการนาฎพิลาป สองมือทาบตีอกไห้ ใครจักช่วยเจ้าได้ ลูกแก้วกับตนแม่เฮย จอมใจแม่ฮา ฯ

โคลง ๔
    o ปู่หมอใดดั่งนี้
อกกู
เชิญปู่เล็งแลดู
ก่อนไส้
ปู่เอยเอนดูตู
เชิญช่วย ตูรา
ปู่ช่วยลุจักให้
กึ่งแล้เมืองหลวง ฯ
    o ปู่ดูปู่ว่าพ้น
แรงนัก แม่ฮา
เทพดาสิทธิศักดิ์
ท่านใช้
ผีสางสุรารักษ์
เราพ่าย หนีนา
ยาท่านเติมมาให้
เสื่อมข้างยาเรา ฯ
    o ที่สู้ดูที่สิ้น
จักกัน แลนา
ทุกเทพผีสางสรรพ์
พ่ายแพ้
ยังยาหยูกทุกอัน
เราเสื่อม ไปนา
มนต์แลยาจักแก้
ท่านได้ฉันใด ฯ
    o ปรานีออกท้าวราช
มารดา ท่านนา
ฟังเร่งแสนโศกา
หมื่นไหม้
น้ำตาบ่เสบยตา
แถวถั่ง ลงนา
ไห้บ่รู้กี่ไห้
แหบแห้งหัวใจ ฯ

ร่าย
   o
ผีภายในแล่นออก แลนา
ผีภายนอกแล่นเข้า แลนา
เทพดาปู่เจ้าสั่ง แลนา
มาทำดั่งปู่สอน แลนา
ให้ย่อหย่อนทุกสิ่ง แลนา
จึ่งให้สารไปกล่าว แลนา
จึ่งให้ข่าวไปถึง แลนา
สมิงพรายผู้เถ้า แลนา
ปู่เจ้าฟังแล้วไส้ แลนา
ปู่จึ่งใช้สลาเหิร แลนา
เดิรเวหาไปสู่ แลนา
ตกลงอยู่รคน แลนา
ปนหมากเสวยท่านไท้ แลนา
ครั้นท่านได้หยิบเสวย แลนา
บนานเลยลอราช แลนา
ใจจะขาดรอนรอน แลนา
ถึงสายสมรพี่น้อง คิดบลุเลยข้อง ขุ่นแค้นอาดูร ฯ


พระลอคลั่ง ครวญคร่ำร่ำสู่สรอง

   
พระลอปดพระมารดาขอไปเที่ยวป่า แต่พระมารดารู้ทัน ไม่ให้ไป พระลอก่นแต่ทุกข์ถึงคลั่งเพ้อ
เหล่าอำมาตย์มนตรีแนะให้แต่งสารไปสู่ขอพระเพื่อนพระแพง แต่พระลอดึงดื้อจักไปเอง
   
เหตุการณ์แลการต่อถ้อยของพระลอกับพระมารดาในช่วงนี้ เปนอีกตอนหนึ่ง ที่แต่งไว้ได้น่าอ่านนัก
________________________________






โคลง ๔
    o ท้าวทูลธิราชไท้
ชนนี
ไหว้บาทบงกชศรี
ใส่เกล้า
ข้าพระอยู่มามี
ใจเหนื่อย พระเอย
จักใคร่ลาพระเจ้า
เที่ยวเหล้นพนาสนฑ์ ฯ
    o ออกท้าวฟังลูกไท้
ทูลลา ท่านนา
เจ้าแม่เปนใดนา
ดั่งนี้
มดหมออยู่รักษา
สงวนราช นะพ่อ
สุดกำลังเขาชี้
ยากแท้ทุกอัน ฯ
    o ผีสางเขาส่งซ้ำ
เติมมา มากนา
มนตรมายายา
หยูกซ้ำ
วันใดราชลีลา
ยกย่าง ไปนา
อกแม่ผอมไข้ขว้ำ
หล่มหล้มพระองค์ ฯ
    o พระลอลาบ่ได้
ทนทุกข์ อยู่นา
บัดนั่งบัดนอนลุก
ละห้อย
ไอศวรรย์บ่เปนสุข
เสวยโศก ไส้นา
โหยคนึงเสน่ห์สร้อย
บ่ได้สร่างเสบย ฯ
    o นางเมืองนั่งแนบเฝ้า
จอมกษัตริย์
ถนอมบาทบงกชรัตน์
ใส่เกล้า
พระสนมรำเพยพัด
ไกวแกว่ง วีนา
พระราชชนนีเล้า
ลูบไล้โลมขวัญ ฯ
    o พระลอบสร่างเศร้า
ศรีหมอง อยู่นา
หลับลเมอหาสอง
หนุ่มหน้า
เคลิ้มไคล้หวาดใจปอง
ปองไป่ ลุเลย
คิดคนึงโอ้อ้า
ใคร่กลั้นใจตาย ฯ
    o ตื่นขึ้นวอนว่าข้า
จักไป
ประพาสชมไพรพลาง
ไล่ช้าง
ชมพนมพนาไลย
พลางไล่ มฤคนา
ชมป่าดงพงกว้าง
เถื่อนถ้ำสระศรี ฯ
    o ออกท้าวฟังลูกไท้
ปรารมภ์ อยู่นา
ปากว่าจะไปชม
ช่อไม้
ครั้นไปจะไปสม
สองนาฎ แลนา
ใส่เล่ห์วอนไจ้ไจ้
จักห้ามฉ้นใด ฯ
    o หาโหรหาถ้วนมิ่ง
มนตรี
หาปู่สิทธิไชยลี-
ลาศเต้า
แถลงคำแก่นกษัตรีย์
ทุกสิ่ง แลนา
โหรว่าจักห้ามเจ้า
แผ่นหล้าฤๅฟัง ฯ
    o สิทธิไชยทูลแด่เจ้า
จอมกษัตริย์
แม้นเทพมาทัดทัด
บ่ได้
มนตรีว่าเห็นขัด
ทุกสิ่ง แลนา
จักส่งสารถึงไท้
สืบสร้องกลความ ฯ

โคลง ๓
    o ธขอบคำความมนตรี
กลกล่าวดีชอบแท้
แก้อื่นบได้แก้
ดั่งนี้เห็นควร ฯ

โคลง
    o จึ่งเสด็จยวรยาตรเต้า
กล่าวแก่พระลอเจ้า
พ่อเฮ้ยปรานี
แม่รา ฯ


ร่าย
    o
แม่ฟังคำพ่อว่า ใคร่เล่นป่าชมเขา แม่เดาใช่คำจรึง พ่อคำนึงอื่นไส้ พระบอกจงจริงให้ แม่รู้เต็มใจ หนึ่งรา ฯ

โคลง ๒
    o ข้ารำพึงอื่นแท้
จะบอกความจริงแล้
พระห้ามขัดใจ
ลูกนา ฯ
    o สิ่งใดพอใจแก้ว
ยังห่อนฤๅให้แคล้ว
ขัดข้องใจขุน
แม่นา ฯ
    o เปนตามความชอบแล้ว
จ้กแต่งตามใจแก้ว
ก่ำพร้าฤๅขืน
อื่นเลย ฯ
    o พระเอยหัวใจข้า
คิดใคร่ไปเห็นหน้า
เพื่อนไท้แพงทอง ฯ

    o ความปองลูกบ่ได้
บร้างเห็นหน้าไท้
ธิราชแล้นะหัว
ลูกเอย ฯ
    o ลาบัวบาทเจ้าหล้า
ไปสู่สองแล้วข้า
จึ่งผ้ายคืนมา ฯ


โคลง ๔
    o เจ้าไปแล้วเจ้าจัก
คืนเมือ ลูกเอย
เนื้อสู่เสือฤๅเสือ
จักไว้
ฟังคำพ่อคิดเหลือ
เหลือที่ คิดนา
คิดบ่ได้ล้วนได้
แต่ร้อนฤๅเสบย ฯ
    o โดยธคิดชอบถ้อย
คลองความ
จักแต่งไปสู่ถาม
พี่น้อง
จักรับพงางาม
สองสู่ พระนา
ได้ง่ายฤๅขัดข้อง
เท่าเส้นยองใย ฯ
    o ดำริห์โดยราชนี้
เยียวนาน
เยียวพ่อสองเยาวมาลย์
ห่อนให้
ทางไกลเที่ยวทูลสาร
ยลยาก พระเอย
ข้าพระไปเองได้
ง่ายแท้ทุกอัน ฯ
    o พ่อไปแล้วนะเจ้า
คืนมา รอดฤๅ
บรอดเลยราชา
อย่าผ้าย
ยาอีกสิ่งมนตรา
คมยิ่ง ยานา
ผีก็ร้ายคนร้าย
รอดได้กลใด ฯ
    o เมืองเราอุบาทว์ร้าย
แรงนัก ลูกเอย
เขาส่งผีสางศักดิ์
ข่มแล้ว
ฤๅบาปิ่นไตรจักร
จักรอด ฤๅพ่อ
หล้มแผ่นดินหล้มแก้ว
แม่หล้มไอศวรรย์ ฯ
    o รอยท้าวทูลบาทเบื้อง
บุญขจร
พระปู่เขาเรารอน
ขาดเกล้า
เขาคุมเคียดจักหลอน
ทำโทษ แทนนา
ฤๅพ่อจักไปเข้า
สู่เงื้อมมือเข็ญ ฯ
    o ถึงกรรมจักอยู่ได้
ฉันใด พระเอย
กรรมบ่มีมีใคร
ฆ่าข้า
กุศลส่งสนองไป
ถึงที่ สุขนา
บาปส่งจำตกช้า
ช่วยได้ฉันใด ฯ
    o ผิไปถึงแล้วและ
ถึงกรรม์ ก็ดี
ตกนรกแสนศัลย์
หมื่นไหม้
เสวยสุขโสดเสวยสวรรค์
เพราะอยู่ ก็ดี
บอยู่เลยลาไท้
ธิราชแล้วจักไป

คือ "แม่"
พระนางบุญเหลือครวญคร่ำ พร่ำสอน อวยพรชัย

   
ตอนนี้แสดงถึง ความเป็น แลสิ่งที่เรียกว่า "แม่" ได้สมบูรณ์นัก
เนื้อความตอนนี้แบ่งเปนช่วงๆดั่งนี้..
    -
รำพันแต่จะทรงครรภ์ แลทำนุถนอมตราบเติบใหญ่
    -
ประจงเชยชม
    -
ย้ำสอนการครองตนครองคน
    -
อวยพรให้ลุที่ปอง แลคืนรอดปลอดพ้นปวงโรคะภยา
________________________________

โคลง ๔
    o ทาบตีอกไห้พ่าง
เมือมรณ์
คำแม่สอนสุดสอน
บ่ได้
รอยกรรมราชจักหลอน
จักล่อ พระฤๅ
รู้เท่ารู้เว้นไว้
กลัดกลุ้มมัวมน ฯ
    o จำศีลบท่อยถ้อย
เจ็ดวัน ลูกเอย
คลังคลี่ทานผลปัน
เท่าฟ้า
ขอมีลูกใจธรรม์
ชายชอบ ใจนา
แม่จึ่งได้เจ้าหล้า
แม่แล้สุดใจ แม่เอย ฯ
    o สิบเดือนอุ้มท้องพระ
ลอลักษณ์
สงวนบ่ลืมตนสัก
หนึ่งน้อย
ตราบพระปิ่นไตรจักร
เสด็จคลอด มานา
ถนอมอาบอุ้มค้อยค้อย
ลูบเลี้ยงรักษา ฯ
    o แลวันสามคาบป้อน
เปนนิตย์
บมิให้ใครทำผิด
แผกเจ้า
แสนสงวนคู่ชีวิต
ฤๅใคร่ กลายเลย
เทียรผดุงคุ้งเท้า
ตราบรู้เสวยเอง ฯ
    o บัญจงกับเข้าแต่ง
ของเสวย
บมิได้เลินเล่อเฉย
หนึ่งน้อย
สรรพเครื่องพระลูกเฮย
ไตรตรวจ แต่งนา
บวางใจกึ่งก้อย
แก่ผู้ใดทำ ฯ
    o แต่น้อยแม่พร่ำเลี้ยง
รักษา พ่อนา
จงเจริญชนม์มา
ตราบได้
สมบัติผ่านภูวดา
ถวัลยราช
ฤๅพ่อจำจากให้
แม่นี้ตรอมตาย ฯ
    o คงชีพหวังได้พึ่ง
ภูมี พ่อแล
ม้วยชีพหวังฝากผี
พ่อได้
ดังฤๅพ่อจักลี
ลาจาก อกนา
ผีแม่ตายจักได้
ฝากให้ใครเผา ฯ
    o สุดใจสุดแม่ห้าม
ภูธร
สอนบ่ฟังแม่สอน
จักเต้า
หนักใจหนักอาวรณ์
ทุกข์ใหญ่ หลวงนา
แม่อยู่ตั้งแต่เศร้า
โศกร้อนฤๅเสบย ฯ

โคลง ๔
    o ลูกเอยจากแม้โอ้
กรรมใด นาพ่อ
ตั้งแต่คิดเด็จไป
สู่สร้อย
แม่เดียวอยู่อาไลย
ทนเทวษ แลนา
มาแม่จะชมน้อย
หนึ่งให้คลายใจ ฯ
    o ชมปรางชมผากเผ้า
ริมไร เกศนา
เชยปากตาตรูไตร
เพริศพริ้ง
ชมพักตรดั่งแขไข
ขวัญเนตร
บพิตรพ่องามสิงคลิ้ง
จูบแก้มเชยกรรณ ฯ
    o จูบนาสิกแก้วแม่
หอมใด ดุจนา
จูบเคียงคางคอใจ
จักขว้ำ
จูบเนื้อจูบนมใส
เสาวภาคย์ พระเอย
จูบไหล่หลังอกซ้ำ
จูบข้างเชยแขน ฯ
    o จักเชยพระลูกถ้วน
สรรพางค์
พระลูกประนมกรพลาง
จึ่งพร้อง
พระควรจูบแต่กลาง
กระหม่อม ไส้นา
แก้มเกศพระเจ้าต้อง
สั่งข้าพระควร ฯ
    o ลูกรักแก้วแม่เอ้ย
ปรานี แม่รา
พระบาทบงกชศรี
ใส่เกล้า
ฤๅบาปิ่นภูมี
ทัดแม่ ไยพ่อ
ขอจูบบัวบาทเจ้า
สั่งเจ้าจอมใจ ฯ
    o พระรักพระว่าไว้
เหนือหัว
ข้าบาทบงกชกลัว
บาปได้
พระคุณโปรดเปนตัว
สอนสั่ง มานา
ข้าไป่แทนคุณไท้
เท่าเส้นใยยอง ฯ
    o รอยกรรมจักจากเจ้า
จอมกษัตริย์
รอยบาปเพรงจำพลัด
ออกท้าว
พระคุณไป่แทนขัด
ใจดั่ง นี้นา
ยาหยูกเขาโน้มน้าว
ลูกให้ใหลหลง ฯ

ร่าย
    o
เมื่อนั้นอนงคเทพี ชนนีนาฎราชรันทด สลดหฤทัยดั่งจะหว่า ท้าวธก็ว่าเจ้าลอลักษณ์ ลูกรักเจ้าแม่นา รักยิ่งตายิ่งตัว รักยิ่งหัวยิ่งชีพ แต่นี้จอมทวีปแม่จะจาก พรากแม่พรากพระบุรี ศรีกษัตริย์มีเจ็ดสิ่ง พระมิ่งแม่จงจำ ยำคำแม่อย่าคลา รีตท้าวพระยาอย่าคลาด อย่าประมาทลืมตน อย่ารคนคนเท็จ ริรอบเสร็จจึ่งทำ คิดทุกคำจึ่งออกปาก อย่าให้ยากแก่ใจไพร่ ไต่ความเมืองจงตรง ดำรงพิภพให้เย็น ดับเข็ญนอกเข็ญใน ส่องใจดูทุกกรม อย่างมชมความเท็จ ริรอบเสร็จเกื้อทางธรรม์ ทีจะกันกันจงหมั้น ทีจะคั้นคั้นจงเปนกล ส่องต้นหนคนใช้ เลือกหาใจอันสัตย์ ดัดมนตรีโดยยุกติ์ ปลุกใจคนให้หาญ ผลาญเพรียงไพร่เพรียงเมือง อาญาเรื่องเรื้อยราษฎร์ กันนิกรอาจเกื้อไพรี ดับกลีอย่าให้ลุก อย่าชิงสุกก่อนห่าม อย่าล่ามม้าสองปาก อย่าลากพิษตามหลัง อย่าให้คนชังลักแช่ง แต่งคนให้คนรัก ชักชวนคนสู่ฟ้า เบื้องหน้าเทพยอยศ จงปรากฎชอบแล้ว อย่าได้แคล้วรำพึง คำนึงอย่ารู้มลาย จงอย่าหายยศพ่อ ต่อม้วยฟ้าหล้าสวรรค์ กัลปประลัยอย่ารู้ลาญ ภูบาลเจ้าจงจำ ตามคำแม่โอวาท พ่อสุดสวาทแก่แม่เฮย จงสวัสดิ์แก่เจ้าเทอญ ฯ

โคลง ๔
    o จงเจริญศรีสวัสดิ์เรื้อง
เดชา
ทุกข์โศกโรคไภยา
อย่าพ้อง
ศัตรูหมู่พาลา
พาลพ่าย ฤทธิ์พ่อ
เสวยสุขอย่าเคืองข้อง
ขุ่นแค้นอารมณ์ ฯ
    o ขอลุสมสบสร้อย
สองนาง
ขออย่าลุเล่ห์ทาง
เสน่ห์นั้น
ขอคิดอย่าใจจาง
คำแม่ สอนนา
ขอพ่อเร็วคืนกั้น
ขอบแคว้นไกรกรุง ฯ
    o ขอฝากฝูงเทพไท้
ภูมินทร์
อากาศพฤกษาสินธุ์
ป่ากว้าง
อิศวรนรายณ์อินทร์
พรหมเมศ ก็ดี
ช่วยรักษาเจ้าช้าง
อย่าให้มีไภย ฯ
    o ได้คืนชีวิตเจ้า
จอมกษัตริย์
จักแต่งธงธวัชฉัตร
เพริศแพร้ว
เทียนทองระย้ารัตน
งามชื่น ตาแฮ
เป็ดไก่บายศรีแก้ว
แต่งแก้สบสถาน ฯ

โคลง
    o ท้าวฟังสารท่านไท้
บังคมก้มกราบไหว้
รับถ้อยคำสอน ฯ

   o รับพรใส่เศียรไว้
แก้เกศเช็ดบาทไท้
ท่านท้าวชนนี
ท่านนา ฯ
    o กรชลีเหนือเกล้า
ลาสมเด็จท้าวเจ้า
สู่ท้องโรงธาร ฯ



พระลอสั่งงานเมือง เตรียมทัพ
ร่ำลามเหสีแลสนมนางใน

   
ในตอนร่ำลามเหสี มีโคลงบทหนึ่งซึ่งคล้ายกับใน "ลิลิตเตลงพ่าย" (ปัจจุบันใช้ "ตะเลง") ตอนพระมหาอุปราชเข้าไปล่ำลาพระมเหสีเพื่อสู่ศึกโยธยา ซึ่งข้าพเจ้าออกจะชอบมากกว่า อยู่เล็กน้อย อ่านช่วงนี้ทีไรก็นึกสงสารพระมหาอุปราชา
ความว่า..
    o จำใจจำจากเจ้า
จำจร
จำนิราศแรมสมร
แม่ร้าง
เพราะเพื่อจักไปรอน
อริราช แลแม่
จำทุกข์จำเทวศว้าง
สวาดิว้าหวั่นถวิล

________________________________

ร่าย
    o
โองการสั่งมนตรี ผู้ภักดีต่างใจ อยู่ระไวต่างองค์ ดำรงรั้งรักษา ภาราเราจงบำรุง ผดุงราษฎร์อย่าให้เคือง ศัตรูเมืองเร่งบำบัด หนึ่งจอมกษัตริย์แก่นไท้ ถนอมบาทบงกชไว้ เหมือนเมื่อเที้ยร กูยัง ฯ

ร่าย
   o
แล้วตรัสสั่งขุนพล พวกพหลเหี้ยมหาญ เร่งเตรียมการพยุหบาตร จัตุรงคราชเรืองรบ ครบทุกหมู่ทุกหมวด ตรวจให้สรรพโดยเขบ็จ จัดให้เสร็จโดยขบวร กูจักยวรยาตรเต้า ในวันรุ่งพรุ่งนี้เช้า แต่งตั้งเตรียมพลัน

โคลง ๒
    o เสร็จผายผันสู่ห้อง
เรือนหลวงโลมลาน้อง
อยู่เจ้าจงดี
แม่ฮา ฯ
    o เรียมจะลีลาศเต้า
อยู่แม่อยู่อย่าเศร้า
ไป่ช้าคืนสม
แม่แล ฯ
    o ลักษณวดีกรมทรวงสร้อย
ทุกข์แทบเลือดตาย้อย
เนตรน้ำนองนูน ฯ

    o นบนิ้วทูลเจ้าหล้า
พระองค์อาจละข้า
บาทไว้ผู้เดียว
พระเอย ฯ
    o ทางไกลเปลี่ยวสัตว์ร้าย
ผีคนองหลอนคล้าย
ทำเล่ห์ให้เห็นตัว ฯ

    o กลัวศัตรูฝ่ายหน้า
หลังพระเสียใจข้า
ดุจดับแก้วสองดวง ฯ

    o ขอห้ามหวงเจ้าหล้า
อยู่ปกเกศเกล้าข้า
พระบาทท้าวอย่าไป ฯ


โคลง ๔
    o สิ่งใดในโลกล้วน
อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง
เที่ยงแท้
คือเงาติดตัวตรัง
ตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บุญบาปแล้
ก่อเกื้อรักษา ฯ
    o จากนุชเรียมขุ่นไข้
อารมณ์ เรียมนา
จากที่สมไปสม
เกลือกแคล้ว
ผิจักอยู่อกกรม
เกรียมสวาท นาแม่
จำพี่จำจากแก้ว
ไป่ช้าคืนสม ฯ
    o พระไปแม้พระได้
สมสอง
ไหนจะคืนคงครอง
ครอบเกล้า
อย่าคิดอย่าจงปอง
สองปล่อย มาฤๅ
สองจักลองโลมเล้า
อยู่ว้าวังขัง ฯ
    o จำจากใช่จากด้วย
ชังสมร แม่นา
จากแม่รักฤๅรอญ
ขาดได้
เด็จบัวแม่เด็จอร
ยังเยื่อ ใยนา
ไปบ่ลืมน้องไท้
อย่าร้อนรนทรวง ฯ
    o สุดทานสุดทัดท้าว
สุดบุญ
ทรงโศกพักตรซบซุน
ร่ำไห้
เหนือบาทยุคลขุน
ครวญคร่ำ ไปนา
สยายเกศเช็ดบาทไท้
ธิราชไว้เปนเฉลิม ฯ
    o เห็นโศกเพิ่มโศกท้าว
กลอยนาง
พลางพระโลมนุชพลาง
ปลอบน้อง
อย่าโศกจะเปนลาง
ในพฤกษ์ ไพรนา
ดับทุกข์ดับเทวษข้อง
ขุ่นแค้นเสียโฉม ฯ
    o เสร็จโลมเสร็จสั่งเจ้า
จอมสนม
สนมอยู่อย่าเกรียมกรม
อกไหม้
ปวงนางรับคำคม
บัวบาท ท่านนา
ซบสอึกสอื้นไห้
แซร่ซร้องแรงโรย ฯ
    o เสียงโหยเสียงไห้มี่
เรือนหลวง
ขุนหมื่นมนตรีปวง
ป่วยซ้ำ
เรือนราษฎร์ร่ำตีทรวง
ทุกข์ทั่ว กันนา
เมืองจะเย็นเปนน้ำ
ย่อมน้ำตาครวญ ฯ
    o เห็นไห้ทุกหมู่ถ้วน
หญิงชาย
ใจสั่นรันทดกาย
ท่านไท้
สูเอยอย่ากรรหาย
เหิมโศก นักนา
ทุกข์นักมักเกิดไข้
มักไข้พลันตาย ฯ



คือ ขบวนทัพหลวง

    ในตอนนี้กล่าวถึงเรื่องภายใน แลบรรยายการจัดทัพไว้อย่างละเอียด
   
เมื่ออ่านช่วงนี้จึงทำให้เห็นคล้อยตามที่ สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ประทานอธิบายไว้ อันปรากฏในตอน "คำนำ" ที่ว่า... "... ผู้แต่งลิลิตพระลอเป็นผู้รู้ราชประเพณีและการเมือง ต้องเป็นบุคคลชั้นสูงอยู่ในราชสำนัก ประกอบทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญอักษรศาสตร์... " ได้เปนอย่างดี
________________________________
ร่าย
    o
โศกเสื่อมคลายใจราช เสร็จสั่งนาฎสั่งสนม ถ้วนทุกกรมกำนัล ท้าวธบทันไสยา แสงจันทราโอภาส ดาราดาษดารก ตกต่ำคล้อยเจียนรุ่ง ผกายพรึกพุ่งอัมพรา ไก่ตื่นตาปรบปรือ ปีกกระพือขันเร้า เสียงดุเหว่าเกริ่นร้อง เสด็จสู่ห้องบังคน นางถวายชลเอางาร ภูบาลสู่ที่สรง ชำระพระองค์บนาน ทรงสุคนธ์ธารกลิ่นลลุง ปรุงปนทองธารทรง ผจงสนับเพลาบวร ภูษาภรณ์เลื่อมลาย รัดพัสตรพรายไพจิตร พิศชายไหวยยาบ ชายแครงคาบเครือวัลย์ พิพิธพรรณเสื้อสนอบ รัดอุระรอบเรืองรอง สังวาลตรองตาบประดับ ทับทรวงแสงร่วงรุ้ง พลอยเพ็ชรพุ่งยรรยง ทรงทองกรจำรัส พาหุรัดรูปมังกรกลาย ธำมรงค์พรายเพริศแพร้ว มกุฎแก้วแสงใส ทรงพิไชยอาวุธเสร็จ บพิตรเสด็จนวยนาด ดั่งพระยาราชไกรสร จากศิขรคูหารัตน์ บัดถึงเกยบมินาน ขุนช้างชาญควาญขับ ประทับเทียบเกยแก้ว ทรงคอคชสารแล้ว เคลื่อนแคล้วพลพฦนท์ ฯ




โคลง ๒
    o แตรสังข์พิณพาทย์ฆ้อง
เสียงประโคมครื้นก้อง
แหล่งหล้ากรุงไกร ฯ


โคลง ๔
    o พระยาไชยนุภาพล้ำ
เลิศเหลือ
ชาญชำนิเศิกเสือ
ปราบแผ้ว
งามสรรพลักษณเจือ
ใจราช สงวนนา
ข่ายภู่รัตคนแพร้ว
เพริศพร้อมดาวทอง ฯ
    o สองขอยอยศไท้
มหิมา
ดูดั่งองค์อมรา
สู่หล้า
พาหนะดุจคเชนทรา
จอมเทพ เปรียบฤๅ
พลดั่งพลหยาดฟ้า
แหล่งหล้าสรรเสริญ ฯ

ร่าย
    o
ธงหน้าเดิรนำพล ธงโบกบนสัญญา เคลื่อนพลดาโดยด่วน ถ้วนทุกหมู่ทุกหมวด ขุนตำรวจสารวัด จัดแจงเดิรคู่เคียง ม้าเดิรเรียงเดิรราย ขยายระยะโดยควร นายถือทวนหมายมาด ภู่แดงดาษปลิวปลาย สพายแล่งศรมหิมา เครื่องอาชายรรยง งามบรรจงเพริศแพร้ว ล้วนแก้วก่องแกมมาศ อัศวชาติสินธพ แลเลิศลบเผ่นผยอง ลองเชิงร้องเครงครื้น สู้ศึกยืนบ่มิพ่าย นายขี่ขับเข้มแขง ล้วนตำแหน่งยศเจ้าหล้า ขุนม้าหมื่นม้าครัน พันม้านายม้ามาก พิศโสภาคย์โสภา มากดาษดาแต่งแง่ แผ่ตนตามเจ้าหล้า แห่ไปหน้าก็มาก แห่หลังหลากเหลือหลาย แห่ฝ่ายซ้ายดาษดา แห่ฝ่ายขวาดาษเดียร พิศเพียนพร้อมงามสรรพ คณนานับบมิถ้วน ล้วนม้าลักษณ์ม้าเลิศ เฉกโฉมเฉิดแหล่งหล้า พิศยิ่งงามถ้วนหน้า ยิ่งม้าเมืองบน ฯ

ร่าย
    o
แลพวกพลยรรยง ธงนำพลยยับ ดับกองร้อยกองพัน แห่กองกันกองแล่น แห่แหนแน่นขุนหมื่น ดูระรื่นมหิมา คณนาไปสล้าง พวกพลด้างพลดาบ พลกำซาบธนู ดูพลหอกพลห้าว ดูพลง้าวพลงาม พลเขนตามเสโลห์ โตมรสลอนปืนไฟ ย่อมพลไกรโอ่อ่า งามสง่าพรรณราย ไพร่เดิรนายเดิรดับ สำรับถ้วนขุนหาญ ขี่สารสูงแกล้วกล้า ดาบหน้าสลาบครุฑควร เดิรโดยขบวนแหนแห่ นายแวงแหล่เหลือหลาย นายแวงซ้ายแวงขวา นายแวงหน้าแวงหลัง แวงจัตุลังคบาท รักษาราชนฤบดี นายแวงสี่ตีนช้าง ข้างพระคชกรรกง แวงองครักษ์ตำรวจ กวดขันแหนแห่ห้อม ล้อมพระคชสำหรับ ขับทวิรถรัตนาสน์ พลหน้าดาษดูยง อลงกตกุญชร บวรวิภูษา เครื่องราชาธิราช งามถึงขนาดเพริศพร้อม งามเครื่องงามพลห้อม เสด็จไท้พระบาท ท่านนา ฯ








รายทางสู่สรอง
คืนแรกนอกวัง รำพันถึงพระมเหสี
________________________________
โคลง ๔
    o พระองค์โอภาสเพี้ยง
ศศิธร
เสด็จดุจเดือนเขจร
แจ่มฟ้า
ดวงดาวดาษอัมพร
เรียงเรียบ
ดูดุจพลเจ้าหล้า
รอบล้อมเสด็จโดย ฯ
    o พระเล็งแลราษฎร์รั้ว
เรือกสวน เรือกนา
พิศไร่นานึกอวร
อ่อนไท้
ป่านี้รูปรอยครวญ
ถึงพี่
อกอ่อนรทวยไหม้
คร่ำแค้นใครโลม ฯ
    o จักไปบใคร่แค้ว
เทพี พี่เอย
จักใคร่คืนคิดศรี
ฝ่ายหน้า
ไปดีอย่าไปดี
ใดดั่ง นี้นา
คิดเร่งอ้างว้างว้า
ห่วงหน้าคิดหลัง ฯ
    o หนหลังเสาวภาคย์ล้วน
ความรัก
ยาหยูกเขาขลังนัก
ฝ่ายหน้า
จักคือพระลอลักษ์
ฤๅใคร่ คืนเลย
ตัดฝ่ายคืนเจ้าหล้า
แต่ตั้งจักไป ฯ

ร่าย
    o
คลี่ไคลพลคล้ายคล้าย แลนา
เร่งผ้ายเร่งคลาดคลา แลนา ล่วงแดนนาแดนไร่ แลนา
ไต่ทางหลวงทางหลาย แลนา
กรายถิ่นฐานบ้านนอก แลนา
ต้นหนบอกตำบล แลนา
ให้หยุดพลเอาทัพ แลนา
ไพร่พรึบจับการจวน แลนา
แต่งตามขบวนเขบ็จ แลนา
ท้าวธเสด็จพพลาทอง แลนา
เสนานองนั่งเฝ้า ลอบพิตรพระเจ้า ท่านท้าวมหิมา ฯ



ร่าย
    o
พี่เลี้ยงข้าถนอมบาท ชาวมหาดเปนกำนัล เฝ้าคั่งคัลโดยกำหนด พระสุริยลดลงต่ำ จะใกล้ค่ำรเรื่อย ลมฉ่ำเฉื่อยฉุนสมร พระภูธรคำนึง ถึงพระราชเทพี ลักษณวดีเพื่อนภิรมย์ โฉมสนมหนุ่มหน้า มือลูบอกโอ้อ้า ด่วนร้างเรียมตรอม อยู่แลฯ

โคลง ๔
    o เห็นเดือนดุจดั่งหน้า
เพาพงา พี่เอย
เรียมเรียกนงนุชมา
พี่ถ้า
เล็งแลเหล่าเห็นตรา
กระต่าย เปล่านา
เดือนยแย้มแย้มหน้า
ใคร่กลั้นใจตาย ฯ
    o เห็นดาวเดียรดาษห้อง
เวหา
เหมือนหมู่สาวสนมมา
ใฝ่เฝ้า
พิศดูย่อมดารา
เรียงรอบ ไปนา
โอ้อ่อนสาวสนมเหน้า
หนุ่มร้างแรมสมร ฯ

โคลง
    o นอนเดียวเปลี่ยวอ้างว้าง
กรกอดอกไห้ช้าง
จากชู้เมียไกล
อกนา ฯ
    o พิศไพรเพยียรวดเร้า
หอมกลิ่นกลกลิ่นเจ้า
พี่ฟุ้งหอมขจร
บารนี ฯ
    o นกสมสมรปากป้อน
ถนัดดั่งเจ้าเยียวอ้อน
อ่อนให้เรียมโลม ฯ

    o คิดถึงโฉมอ่อนอ้า
ถนัดดั่งจะเห็นหน้า
หนุ่มเหน้าสุดใจ
พี่เอย ฯ
    o ฉันใดสองพี่เลี้ยง
บปากสักคำเพี้ยง
ดั่งใบ้ฤๅควร
นะพี่ ฯ
    o วานช่วยสรวลแก้หน้า
ชาวนอกฉันนี้อ้า
พี่เอ้ยวานดู
หนึ่งรา ฯ

โคลง ๔
    o เห็นบ้านบดุจบ้าน
เมืองเรา พี่เอย
เรือนโรงรุกรุยเขา
รูปร้าย
บเห็นที่จักเอา
สักหยาด เลยพี่
เห็นดั่งนี้สู้หม้าย
อยู่แล้ฤๅแล ฯ
    o พระเอยอาบน้ำขุ่น
เอาเย็น
ปลาผอกหมกเหม็นยาม
อยากเคี้ยว
รุกรุยราคจำเปน
ปางเมื่อ แคลนนา
อดอยู่เยียวดิ้วเดี้ยว
อยู่ได้ฉันใด ฯ
    o ยามไร้เด็ดดอกหญ้า
แซมผม พระเอย
หอมบ่หอมทัดดม
ดั่งบ้า
สุกกรมรำดวนชม
เชยกลิ่น พระเอย
หอมกลิ่นเรียมโอ้อ้า
กลิ่นแก้วติดใจ ฯ
    o สองนายสนองนาถพ้อ
ไปมา
พระหากเจรจาใจ
จอดน้อง
หัวใจหนึ่งโหยหา
สองเพื่อน แพงนา
ใจหนึ่งนึกนางห้อง
หนุ่มหน้าพระสนม ฯ

โคลง
    o พระตนกลมแก่นไท้
กรกอดหมอนม่ายไหม้
สวาทว้าหัวใจ ฯ

    o เดือนสุทธิใสส่องฟ้า
ลอบพิตรเจ้าหล้า
ท่านท้าวเสด็จไป ฯ



ชมป่า

เปนตอนชมนกชมไม้ในป่า แสดงถึงความรอบรู้ในพรรณพฤกษาแลคณาสัตว์ ความเชี่ยวชาญอักษรศิลป์อย่างยิ่งของผู้ทรงนิพนธ์
มีการเปรียบเปรยแลเล่นคำอย่างวิจิตร สละสลวย "วัลย์โอบเอวไม้อ้า อ่อนอ้อมเอวเรียม"   "ลางลิงลิงลอดไม้ ลางลิง"
________________________________
ร่าย
    o
คลี่ไคลพลผาดผ้าย แลนา คลับคล้ายถึงทุ่งนา แลนา คลับคลาถึงทุ่งหญ้า แลนา หัวหน้าเข้าพงเลา แลนา พลเทาถึงพงแฝก แลนา พงแขมแทรกคาพง แลนา ถึงป่าดงป่าแดง แลนา เห็นรแหงแหล่งไหล้ แลนา เห็นหมู่ไม้หนั่นหนา แลนา ราชาชมชื่นชี้ แลนา คือไม้หมู่นี้นี้ ชื่อโอ้นามใด แลนา

โคลง ๒
    o พลจรใจจำหมั้น
ทูลชื่อไม้นั้นนั้น
แด่ไท้ทุกอัน ฯ

    o ครั้นธรู้ตระหนักแล้ว
ลอราชชมไม้แก้ว
เหมือนดั่งแก้วกลอยใจ
พี่นา ฯ

โคลง ๔
    o แอ่นเคล้าเหมือนแม่เคล้า
คลอคลึง พี่นา
หอมกลิ่นเรียมคิดถึง
กลิ่นเจ้า
สุกกรมพยอมพึง
ใจพี่ พระเอย
เหมือนกลิ่นอรหนุ่มเหน้า
พี่ต้องติดใจ บารนีฯ
    o นางแย้มเหมือนแม่แย้ม
ยินดี ร่อนา
ต้องดุจมือเทพี
พี่ต้อง
ช้องนางคลี่เกศี
นุชคลี่ ลงฤๅ
รักดุจเรียมรักน้อง
ร่วมรู้รักเรียม ฯ
    o ยมโดยประดุจเจ้า
จงโดย
ใบโบกคือนุชโชย
เรียกข้า
เรียมเห็นเกดเรียมโหย
หาเกศ นุชแม่
วัลย์โอบเอวไม้อ้า
อ่อนอ้อมเอวเรียม ฯ
    o เล็บมือนางนี้ดั่ง
เล็บนาง เรียมนา
ชมม่านนางหวังต่าง
ม่านน้อง
ชมพูสไบบาง
นุชคลี่ ลงฤๅ
งามป่านี้ไม้ปล้อง
แปลกปล้องคอศรี ฯ
ร่าย
    o
พระลอเสด็จลีลา ชมพฤกษาหลายหลาก สองปลากข้างแถวทาง ยางจับยางชมฝูง ยูงจับยูงยั่วเย้า เปล้าจับเปล้าแปลกหมู่ กระสาสู่กระสัง รังเรียงรังรังนาน ไก่คราญไต่หงอนไก่ ไผ่จับไผ่คู่คลอ ตอดตอจับไม้ตอด ตับคาลอดพงคา คล้าคลาจงจับคล้า หว้าจับหว้าลอดแล คับแคจับแคป่า ดอกบัวล่าชมบัว กระเวนวังนัวกระเวนดง ช่างทองลงจับทองยั้ว แขกเต้าตั้วเต้าแขก ไต่ไม้แมกไปมา บ่รู้กี่คณาชมผู้ ขมพิหคเหิรรู้ เรียกร้องหากัน ฯ

โคลง ๔
    o กาจับกาฝากต้น
ตุมกา
กาลอดกาลากา
ร่อนร้อง
เพกาหมู่กามา
จับอยู่
กาม่ายมัดกาซร้อง
กิ่งก้านกาหลง ฯ
    o ตาเสือเสือผาดผ้าย
หนีทาง
กวางแนบหูกวางฟาน
ฟิดเร้น
ช้างน้าวหมู่บงทราง
ซอนอยู่
ช้างลอดอ้อยช้างเหล้น
ป่าลี้ลับดง ฯ
    o ลางลิงลิงลอดไม้
ลางลิง
แลลูกลิงลงชิง
ลูกไม้
ลิงลมไล่ลมติง
ลิงโลด หนีนา
แลลูกลิงลางไหล้
ลอดเลี้ยวลางลิง ฯ

no image
  • Blogger Comments
  • Facebook Comments

0 ความคิดเห็น:

Post a Comment

Top